Search

สกู๊ปพิเศษ : จับชีพจรกีฬาไทย ลุยศักราชใหม่ 2565 - มติชน

เปิดศักราชใหม่ 2565 ต้อนรับปีขาล พร้อมกับการเดินหน้าต่อของวงการกีฬาไทยในรอบปีนี้ ซึ่งมีภารกิจสำคัญ และเป้าหมายใหญ่รอคอยอยู่ รวมทั้งมหกรรมกีฬาต่างๆ ทั้งระดับชาติ และนานาชาติมากมายท่ามกลางวิกฤตการณ์โควิด-19 ที่ยังคงไม่จางหายไปในทันตา ทำให้คงจะต้องชีพจรทิศทางของกีฬาไทยในปีนี้…

ประเด็นแรกที่สำคัญของวงการกีฬาไทยเริ่มต้นกันตั้งแต่ต้นปีในเรื่องร่างพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา พ.ศ.2555 ให้สอดคล้องกับกฎบัตรของ องค์กรต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก (วาด้า) เพื่อปลดล็อกโทษแบน 3 บริบท คือ การเป็นเจ้าภาพกีฬานานาชาติ, ผู้แทนไทยในสหพันธ์กีฬา และการใช้ธงชาติไทย

กรณีนี้ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เดินเครื่องทำงานอย่างหนัก ผนึกกำลังทุกภาคส่วน จนคาดว่าจะสามารถบังคับใช้เป็นกฏหมายได้ภายในเดือนมกราคมนี้ พร้อมกับเจรากับวาด้าให้ปลดล็อกโทษทุกอย่างทันที เพื่อให้วงการกีฬาไทยกลับมาเชิดหน้าชูตาในเวทีระดับโลกอีกครั้ง

ขณะที่มหกรรมกีฬาแรกของทัพนักกีฬาไทยในปีนี้คือ โอลิมปิก ฤดูหนาว ปักกิ่ง 2022 ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน วันที่ 4-20 กุมภาพันธ์ โดยทัพไทยคว้าโควต้าแล้ว 4 คน ในกีฬาสกี ประกอบด้วย มรรค จันทร์เหลือง, คาเรน จันทร์เหลือง, นิโคล่า ซานอน และมิดา ฟ้าใจมั่น ส่วน พาราลิมปิก ฤดูหนาว ปักกิ่ง 2022 จะแข่งขันในเดือนถัดไปช่วงวันที่ 4-13 มีนาคม

จากนั้นจะเป็นการแข่งขัน กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ฮานอย 2022 ที่กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ช่วงวันที่ 12-23 พฤษภาคม ซึ่งถูกเลื่อนมาจากปีก่อน เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โยกมาจัดกันในปีนี้ โดยชิงชัย 40 ชนิดกีฬา และมีนักกีฬากว่า 1 หมื่นคนจากทั้งหมด 11 ชาติมาเข้าร่วมการแข่งขันมหกรรมกีฬายิ่งใหญ่ที่สุดแห่งอาเซียน

สำหรับทัพนักกีฬาไทยได้เก็บตัวฝึกซ้อมมาตั้งแต่ช่วงเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา ไปจนถึงพฤษภาคม รวมระยะเวลา 5 เดือน เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเดินทางไปเข้าร่วมการชิงชัย โดยได้ประเมินความคาดหวังของนักกีฬาไทยในศึกซีเกมส์ครั้งนี้ รวม 120 เหรียญทอง พร้อมกับครองเจ้าเหรียญทองในชนิดกีฬาสากลอีกด้วย

ขณะที่การแข่งขัน กีฬาอาเซียน พาราเกมส์ ครั้งที่ 10 เดิมกำหนดจัดที่ประเทศฟิลิปปินส์ แต่ถูกเลื่อนจากสถานการณ์โควิด-19 และสุดท้าย 10 ชาติอาเซียนเห็นตรงกันว่า สถานการณ์ยังไม่แน่นอน อีกทั้งระยะเวลาการเตรียมตัวไม่ถึง 1 ปี ตามระเบียบ จึงมีมติให้ยกเลิกการจัดการแข่งขัน โดยประเทศเวียดนามจะรับหน้าที่เป็นเจ้าภาพครั้งต่อไปในเดือนธันวาคมปีนี้

ขยับจากระดับภูมิภาคไปสู่ระดับทวีปกับการแข่งขัน กีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 19 หางโจว 2022 ที่นครหางโจว ประเทศจีน ช่วงวันที่ 10-25 กันยายน ซึ่งถือเป็นมหกรรมกีฬายิ่งใหญ่ของเอเชีย และมีความท้าทายอย่างมากกับการจัดการแข่งขันครั้งแรกของจีนในสถานการณ์โควิด-19 โดยจัดชิงชัย 40 ชนิดกีฬาเช่นกัน

ในส่วนทัพนักกีฬาไทยได้เข้าแคมป์เก็บตัวฝึกซ้อมยาวนานต่อเนื่องถึง 10 เดือน ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีก่อน ไปจนกระทั่งเดือนกันยายน เพื่อเตรียมพร้อมเสริมแกร่งกันเต็มสูบ เพื่อความหวังควาเหรียญรางวัลอย่างน้อย 17 เหรียญทอง รวมทั้งจะต้องติดอันดับท็อป 7 ในตารางเหรียญรวม จากทั้งหมดกว่า 45 ชาติเอเชียที่ร่วมชิงชัย

เช่นเดียวกับการแข่งขัน กีฬาเอเชี่ยน พาราเกมส์ ครั้งที่ 4 หางโจว 2022 จัดที่นครหางโจว ประเทศจีน ช่วงวันที่ 9-15 ตุลาคม ซึ่งเป็นทัวร์นาเมนต์สำคัญของทัพนักกีฬาคนพิการไทยที่จะต้องพิสูจน์ผลงานในเวทีระดับเอเชีย ก่อนที่จะมุ่งหน้าต่อไปในศึกอาเซียน พาราเกมส์ เพื่อตอกย้ำถึงการเป็นเจ้าอาเซียนอย่างแท้จริง

ส่วนทัพนักกีฬาปัญญาชนไทยก็มีมหกรรมกีฬาให้เข้าร่วมการแข่งขันในปีนี้เช่นกันหลังเลื่อนมาจากปีก่อน โดยจะเริ่มที่การแข่งขัน กีฬามหาวิทยาลัยอาเซียน ครั้งที่ 20 ที่ประเทศไทยรับหน้าที่เป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันที่มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี วันที่ 20-30 มิถุนายน ตามด้วยการแข่งขัน กีฬามหาวิทยาลัยโลก ที่นครเฉิงตู ประเทศจีน ช่วงกรกฎาคม-สิงหาคม

ถือเป็นอีกหนึ่งมหกรรมกีฬาสำคัญของทัพนักกีฬาไทยในระดับอุดมศึกษา ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกลไกลในการขับเคลื่อนการพัฒนาวงการกีฬาไทยให้ครอบคลุมในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับเยาวชน มาจนถึงระดับประชาชนให้เดินหน้าพัฒนาร่วมกันไปทั้งองคาพยพ

ด้าน ฟุตบอล ถือเป็นชนิดกีฬาขวัญใจมหาชน ซึ่งในรอบปีนี้ ทีมฟุตบอลชายทีมชาติไทยมีภารกิจสำคัญรออยู่มากมาย ทั้งระดับทีมชุดเยาวชน และทีมชุดใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ภายใต้การคุมทัพของ “โค้ชโย่ง” วรวุธ ศรีมะฆะ ซึ่งมี 4 ทัวร์นาเมนต์ต่อเนื่องกัน

เริ่มต้นที่ศึกฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ที่ประเทศกัมพูชา วันที่ 14-26 กุมภาพันธ์ ต่อด้วยการแข่งขันฟุตบอลในซีเกมส์ ฮานอย 2022 ช่วงเดือนพฤษภาคม ก่อนเข้าสู่ศึกชิงแชมป์เอเชีย 2022 รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี รอบสุดท้าย ที่ประเทศอุซเบกิสถาน วันที่ 1-19 มิถุนายน และปิดท้ายที่การแข่งขันฟุตบอลชายในเอเชี่ยนเกมส์ 2022 ในเดือนกันยายน

ถือเป็นโจทย์ยากของ “โค้ชโย่ง” กับการเตรียมทัพช้างศึก ยู-23 ให้มีความพร้อมสมบูรณ์ที่สุดสำหรับการตะลุย 4 ศึกใหญ่ที่มีเป้าหมายคือ การประกาศศักดาครองเจ้าอาเซียนให้ได้อีกครั้ง รวมทั้งสร้างผลงานโลดแล่นไปให้ไกลที่สุดในสังเวียนระดับเอเชีย

ขณะที่ ทัพช้างศึกชุดใหญ่ มีภารกิจสำคัญในศึกเอเชี่ยน คัพ 2023 รอบคัดเลือก รอบสาม ช่วงวันที่ 8-14 มิถุนายน เพื่อแย่งชิงโควต้าผ่านเข้าไปฟาดแข้งในรอบสุดท้าย ที่ประเทศจีนในช่วงปีหน้า รวมทั้งศึกฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์คัพ” ซึ่งทางสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ วางแผนกำหนดจัดในช่วงเดือนกันยายน

มาโน่ โพลกิ้ง กุนซือทัพช้างศึกชุดใหญ่ พร้อมทั้ง “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมชาติไทย เดินหน้าวางแผนเตรียมทัพกันต่อเนื่องในปีนี้ ซึ่งต่อยอดความสำเร็จมาจากเมื่อปีก่อน เพื่อความหวังในการกอบกู้ศรัทธาของแฟนบอลชาวไทยกลับมาอีกครั้งในศักราชใหม่นี้

นอกจากนี้ ในปีนี้ยังมีการแข่งขันกีฬาระดับชาติ ซึ่งถือเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนา โดยทาง กกท.วางแผนจัดการแข่งขัน กีฬาแห่งชาติ ครั้งที่47 ศรีสะเกษเกมส์ ที่ จ.ศรีสะเกษ ในวันที่ 5-25 มีนาคม และการแข่งขัน กีฬาคนพิการแห่งชาติ ครั้งที่ 37 นครลำดวนเกมส์ ที่ จ.ศรีสะเกษ เช่นกันในวันที่ 30 มีนาคม-3 เมษายนนี้

รวมทั้งการแข่งขัน กีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 37 พัทลุงเกมส์ ที่ จ.พัทลุง จัดในช่วงวันที่ 29 กรกฎาคม-10 สิงหาคม 2565 และการแข่งขัน กีฬาอาวุโสแห่งชาติ ครั้งที่ 4 เสกักเกมส์ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 21-27 สิงหาคม ซึ่งทั้งหมดเป็นมหกรรมกีฬาที่ช่วยพัฒนาวงการกีฬาไทยครบทุกมิติเลยทีเดียว

กีฬาไทยพร้อมลุยศักราชใหม่ 2565 ซึ่งอัดแน่นไปด้วยโปรแกรมมหกรรมกีฬาต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะในระดับภูมิภาคอาเซียน และทวีปเอเชีย ซึ่งจะถือเป็นปีที่มีความท้าทายอย่างมากสำหรับกีฬาไทย ทั้งอุปสรรคใหญ่จากบทลงโทษของวาด้า และวิกฤติการณ์โควิด-19

ซึ่งเป็นบทพิสูจน์ครั้งสำคัญกับการกลับมาเชิดหน้าชูตาในเวทีกีฬานานาชาติอีกครั้ง…

Adblock test (Why?)

อ่านบทความและอื่น ๆ ( สกู๊ปพิเศษ : จับชีพจรกีฬาไทย ลุยศักราชใหม่ 2565 - มติชน )
https://ift.tt/3mPEDTd
กีฬา

Bagikan Berita Ini

0 Response to "สกู๊ปพิเศษ : จับชีพจรกีฬาไทย ลุยศักราชใหม่ 2565 - มติชน"

Post a Comment

Powered by Blogger.