(7 สิงหาคม 2563) นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. เฟซบุ๊คไลฟ์ ผ่านเพจ PEACETALK เมื่อวันที่ 6 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยกล่าวถึงสถานการณ์บ้านเมืองอยู่ในอาการน่าเป็นห่วง เนื่องจากทั้งสองฝ่ายก่อความชิงชังด้วยวาทกรรมชังชาติ จนไม่ยอมหลีกเลี่ยงกัน ซึ่งจะนำไปสู่เรื่องไม่เป็นเรื่อง หรือเป็นเรื่องกันขึ้นมา
นายจตุพร กล่าวว่า ขณะนี้บ้านเมืองมีความเปราะบางอย่างยิ่ง แต่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 จะเกิดประโยชน์กับทุกฝ่าย เพราะถ้ารัฐบาลมองการณ์ไกลแล้ว เมื่อมีแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะไม่มีการยุบสภาฯเร็วขึ้น ดังนั้น จึงร้องขอนักการเมืองและทุกฝ่าย ควรร่วมกันเปิดประตู มาตรา 256 ก่อน อย่าเพิ่งเสนอรายละเอียดเพื่อแก้ไขในมาตราอื่นๆในช่วงนี้
"สิ่งสำคัญการแก้ไขมาตรา 256 อยู่ที่การเสนอตั้ง สสร. มายกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งในอดีตรัฐบาลนายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ดำเนินการมาแล้วจนได้เลือกตั้ง สสร.ทางอ้อม เป็นตัวแทนของแต่ละจังหวัดมาร่างรัฐธรรมนูญ 2540 จนสำเร็จเมื่อได้ สสร.แล้ว จะเสนอให้ยกเลิก ส.ว. หรือยกเลิกมาตรา 272 ก็ต้องว่ากันต่อไป แต่ถ้าขณะนี้คุยมาตราอื่นก่อนแก้ มาตรา 256 นั้น คงต้องรบกันก่อน จะไม่มีวันแก้รัฐธรรมนูญสำเร็จได้" นายจตุพร กล่าว
อย่างไรก็ตาม ถ้าต้องการความสำเร็จ ต้องไปทีละขั้น หากพรวดพราดแล้ว คงได้เรื่องกัน ไม่มีวันจะแก้รัฐธรรมนูญสำเร็จ เนื่องจาก รัฐธรรมนูญ 2560 ถูกออกแบบให้แก้ไขได้ยากที่สุด ตั้งแต่ประเทศไทยมีรัฐธรรมนูญมา และเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกาศพร้อมแก้ไขแล้ว คงต้องมีหน้าที่ไปคุยกับวุฒิสภา ส่วนสภาผู้แทนฯนั้น เสียงเป็นเอกฉันท์ มีความแตกต่างกันเพียงแก้มาตรา 256 ให้มี สสร. กับแก้ไขรายมาตราเท่านั้น
"ผมเห็นว่า ถ้าแก้รายมาตราจะทำให้นักการเมืองถูกครหาว่า แก้เพื่อตัวเอง แล้วนำไปสู่ความขัดแย้งมากมายตามมาอีกผมว่าควรแก้มาตรา 256 มาตราเดียว ส่วนมาตราอื่นให้หุบปากไว้ก่อน ถ้าเสนอมาตราอื่นด้วย แปรความว่าไม่ต้องการความสำเร็จ มันจะทะเลาะกันก่อน และถ้าอยากให้เกิด สสร.แล้ว เราจะไปคิดแทน สสร.ได้อย่างไร ดังนั้น ต้องเกิด สสร.ก่อน เราจึงเสนอความปรารถนาในฐานะประชาชน" ประธาน นปช. ระบุ
ทั้งนี้ ส่วนตัวยังยืนยันว่ารัฐธรรมนูญต้องได้รับการแก้ไข เมื่อหลายฝ่ายให้แก้ไขแล้ว ต้องกำหนดไทม์ไลน์ให้ชัดเจน จึงจะนำพาไปสู่ความสำเร็จได้ ส่วนการยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาประกบนั้น เป็นเพียงเทคนิคทางการเมือง แต่ต้องคุยกันให้แน่ชัดว่า จะแก้เฉพาะมาตรา 256 เท่านั้น ส่วนการปลุกความชิงชังให้เกิดขึ้นในชาตินั้น อยากให้ดูตัวอย่าง ประเทศรวันดา เกิดความขัดแย้ง ปลุกความชิงชังของ 2 ชนเผ่า จนมีการสังหารเสียชีวิตเป็นล้านคน กรณีของไทย 6 ตุลาฯ 2519 ก็เกิดจากการปลุกความชิงชัง บ้าคลั่ง ซึ่งไม่ควรจะเกิดขึ้น
ขณะเดียวกัน มาครั้งนี้ ตนมองเห็นปรากฎการณ์ และพยายามเรียกร้องให้ขบวนการนักศึกษาขีดเส้นใต้ 3 ข้อเรียกร้อง อีกทั้งคนเป็นรุ่นพี่เมื่อไปปราศรัย ไม่ควรนำเรื่องไปสู่ขบวนการนักศึกษา ซึ่งจะทำให้เกิดสถานการณ์ที่ยากลำบากขึ้น"ในเวทีที่ขบวนการนักศึกษาจัด คนที่จบแล้ว ควรระมัดระวังการพูดการจา และต้องพยายามรักษาจุดยืน ชัยชนะให้กับนิสิต นักศึกษาไว้ โดยยึดข้อเรียกร้อง 3 ข้อ ซึ่งได้รับการตอบสนองจากสังคมแล้ว สิ่งที่เป็นภัยควรหลีกเลี่ยงให้กับขบวนการนักศึกษา ถ้าตัวเองต้องการเสนอความคิดเห็นก็ควรเป็นเวทีของตัวเอง" นายจตุพร กล่าว
สำหรับ พล.อ.ภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พูดถึงโรคชังชาติรักษาไม่หาย แต่เป็นโควิดรักษาหายนั้น ถ้าใช้วุฒิภาวะของ ผบ.ทบ.อธิบายถึงสถาบันหลักของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อย่างเป็นระบบเกิดความเข้าใจ ให้มีความสามัคคีรักษาไว้ในสิ่งดีงามแล้ว เชื่อว่าสังคมจะรับฟังแต่ถ้านำเสนอแบบ TikTok จะเกิดปมปัญหาขึ้นมาใหม่ โดยไม่จำเป็นอะไรตนจึงแสดงจุดยืนให้แต่ละฝ่ายอย่าได้กล่าวหากันให้เกิดความชิงชังหรือแตกแยก เพราะความจริง 3 ข้อแสนอของขบวนการนักศึกษา ไม่มีความแตกแยก แต่ได้รับการตอบสนองจากสังคม
"ผมเชื่อว่า ถ้าไม่หลีกเลี่ยงกัน แล้วต่างฝ่ายต่างเดินกันลักษณะนี้ ผมว่ามีเรื่องกันล้านเปอร์เซ็น วันนี้ต้องการเรื่องหรือแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อยุบสภา คืนอำนาจให้ประชาชน เมื่อฟัดกันไปมาแบบนี้ เรื่องไม่ควรเป็นเรื่อง ก็จะเป็นรื่องกัน อาการน่าเป็นห่วงจริง" นายจตุพร กล่าว
นายจตุพร ย้ำว่า ฝ่ายนักศึกษาต้องยึดการขีดเส้นใต้ที่ 3 ข้อเรียกร้อง ไม่ยุ่งเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่อีกฝ่ายหนึ่งควรหยุดวาทกรรมชังชาติ ซึ่งเชื่อว่าสถานการณ์ของประเทศจะเดินไปได้ ตนไม่ได้ปกป้องรัฐบาล เพียงแต่ต้องการรัฐธรรมนูญ ที่เป็นประชาธิปไตยเท่านั้น และส่วนตัวสนับสนุนจุดยืน 3 ข้อแบบห่างๆ เพราะถูกต้อง สิ่งที่พูดเพื่อต้องการให้แต่ละฝ่ายมีสติตั้งหลักกัน โดยอีกฝ่ายก็ไม่ควรไปกล่าวหาว่าอีกฝ่ายชังชาติเช่นเดียวกัน
เรื่องโดย Nation TV | ภาพโดย Nation TV
August 07, 2020 at 06:13AM
https://ift.tt/2XSul8H
วาทกรรมชังชาติพาบ้านเมืองอาการน่าเป็นห่วง - NationTV
https://ift.tt/3hbQyqg
Bagikan Berita Ini
0 Response to "วาทกรรมชังชาติพาบ้านเมืองอาการน่าเป็นห่วง - NationTV"
Post a Comment