Search

'ASICS' จาก 'รองเท้ากีฬา' ยอดฮิต สู่ 'ม้ามืดวงการสนีกเกอร์' ระดับโลก - กรุงเทพธุรกิจ

Key Points:

  • หลายทศวรรษที่ผ่านมา “ASICS” เป็นแบรนด์กีฬาจากประเทศญี่ปุ่น ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น กรีฑา ฟุตบอล หรือบาสเกตบอล
  • ช่วงประมาณปี 2022 เป็นต้นมา ASICS เริ่มได้รับความสนใจจากวงการ “สนีกเกอร์” มากขึ้น หลังได้ร่วมงานกับดีไซเนอร์จากแบรนด์แนวสตรีทหลากหลายแบรนด์
  • หลังก้าวเข้ามาสู่วงการแฟชั่นได้ไม่นาน ASICS ก็คว้า “รางวัลแบรนด์รองเท้าแห่งปี” ไปได้ถึง 2 ปีซ้อน เอาชนะสนีกเกอร์เบอร์ต้นๆ อย่าง ADIDAS ไปได้

ก่อนหน้านี้ชื่อของ “ASICS” อาจไม่ได้โด่งดังในวงการ “สนีกเกอร์” เท่าไรนัก เนื่องจากเป็นที่รู้จักกันในฐานะแบรนด์กีฬายอดนิยมที่อยู่คู่วงการมานานหลายสิบปี ทั้งกรีฑา ฟุตบอล บาสเกตบอล เป็นต้น

ทุกวันนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่า ASICS (เอสิคส์) ก้าวขึ้นมาอยู่แถวหน้าของแวดวงแฟชั่น โดยเฉพาะสนีกเกอร์ไปทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นโซนเอเชีย ยุโรป และอเมริกา นอกจากนี้ยังได้รับรางวัลแบรนด์รองเท้าแห่งปี 2023 อีกด้วย

แต่รู้หรือไม่ว่า แท้จริงแล้ว “ASICS” และ “Onitsuka Tiger” มีที่มาจากอดีตทหารผ่านศึก คิฮาจิโร โอนิซึกะ (Kihachiro Onitsuka) เหมือนกัน ตั้งแต่ปี 1949 หรือช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ในเมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่น

‘ASICS’ จาก ‘รองเท้ากีฬา‘ ยอดฮิต สู่ ‘ม้ามืดวงการสนีกเกอร์‘ ระดับโลก OK Basketball รองเท้าคู่แรกจาก ASICS

  • “ASICS” รองเท้ากีฬาที่อยู่มานานถึง 75 ปี

แม้ว่า ASICS จะเริ่มดำเนินการในฐานะ “แบรนด์” ในปี 1977 แต่มีจุดเริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 1949 โดย คิฮาจิโร โอนิซึกะ ได้ก่อตั้ง Onitsuka Co. ขึ้น เนื่องจากความชื่นชอบในเรื่องของกีฬาและสุขภาพ ต่อมาในปี 1950 เขาตั้งเป้าที่จะผลิตรองเท้าที่เหมาะสมให้กับเยาวชนของญี่ปุ่นเพื่อส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่เข้าถึงกีฬาได้ง่ายขึ้น

ส่วนหนึ่งเป็นเพราะช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ไม่ได้สร้างความเสียหายต่อสภาพบ้านเมืองเท่านั้น แต่ยังสร้างผลกระทบต่อจิตใจคนในประเทศด้วย คิฮาจิโร จึงมองว่า “กีฬา” จะช่วยเยียวยาผู้คนได้

หลังจากนั้นประมาณปี 1970 เขาก็ได้เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น “ASICS” ซึ่งเป็นอักษรย่อของสำนวนภาษาละติน “Anima Sana In Corpore Sano” แปลว่า “A sound mind in a sound body.” หรือ จิตใจที่แข็งแกร่ง ภายในร่างกายที่แข็งแรง ที่กลายมาเป็นปรัชญาสำหรับดำเนินธุรกิจในเวลาต่อมา

‘ASICS’ จาก ‘รองเท้ากีฬา‘ ยอดฮิต สู่ ‘ม้ามืดวงการสนีกเกอร์‘ ระดับโลก

คิฮาจิโร โอนิซึกะ (Daman)

เมื่อเวลาผ่านไปความนิยมของ ASICS ก็เพิ่มมากขึ้น แต่ในเฉพาะแวดวงกีฬา ยังไม่ได้ก้าวเข้าสู่วงการแฟชั่น เนื่องจากมีกลุ่มลูกค้าหลักเป็นนักเรียน ก่อนจะพัฒนาไปเป็นกลุ่มนักกีฬามาราธอนจนถึงบาสเกตบอล

ต่อมาในปี 1953 Onitsuka Co. ควบรวมกิจการกับบริษัท Tiger ที่เป็นโรงงานผลิตยาง ก่อนจะใช้ชื่อใหม่ว่า “Onitsuka Tiger” หรือ โอนิซึกะ ไทเกอร์ และพัฒนารองเท้ากีฬามาจนถึงปัจจุบัน

สำหรับเหตุการณ์ที่ทำให้ ASICS โด่งดังไปในระดับโลกก็คือ มหกรรมกีฬาโอลิมปิก 1968 ประเทศเม็กซิโก เนื่องจากนักกีฬาทีมชาติญี่ปุ่นใส่เป็นเครื่องแบบ (ขณะนั้นยังใช้ชื่อว่า Onitsuka Tiger) และหลังจากนั้นก็มีการรีแบรนด์อีกครั้งโดยการเปลี่ยนชื่อที่ใช้จดทะเบียนบริษัท ASICS Corporation

‘ASICS’ จาก ‘รองเท้ากีฬา‘ ยอดฮิต สู่ ‘ม้ามืดวงการสนีกเกอร์‘ ระดับโลก

Onitsuka Tiger MEXICO 66 ที่ใช้ใน Olympic 1968

มาพร้อมลายแถบด้านข้างที่กลายเป็นเอกลักษณ์ของ ASICS ในเวลาต่อมา

อ่านมาถึงตรงนี้หลายคนอาจสงสัยว่า แล้ว “ASICS” ได้รับความนิยมในวงการ “สนีกเกอร์” ได้อย่างไร คำตอบส่วนหนึ่งก็คือ การต่อยอดดีไซน์จากรองเท้าวิ่งไปสู่แนวสปอร์ตสไตล์ เน้นการสวมใส่ได้ในชีวิตประจำวัน ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี “เจล” ที่ช่วยให้ผู้ใส่เดินได้สบายเท้ามากขึ้น รวมถึงการร่วมงานกับดีไซเนอร์ชื่อดังมากมายจากสตรีทแบรนด์

  • เมื่อ “ASICS” ก้าวขึ้นแถวหน้าวงการ “สนีกเกอร์”

การฟื้นตัวของแบรนด์เริ่มขึ้นเมื่อประมาณปี 2022 โดย ASICS ได้เลือกให้ แอนเจโล แบค (Angelo Baque) ดีไซเนอร์จาก Awake NY แบรนด์เสื้อผ้าสายสตรีท มารับตำแหน่ง “The Asics Collective” ซึ่งทำหน้าที่คล้ายกับหัวหน้าฝ่ายสร้างสรรค์ (เป็นตำแหน่งชั่วคราวเท่านั้น)

หลังจากนั้น แอนเจโล พา ASICS ไปร่วมมือกับแบรนด์อื่นมากขึ้น และได้ร่วมงานกับคนในแวดวงแฟชั่นมากมาย เช่น แอนดรูว์ ไวท์ (Andrew White) ดีไซเนอร์จาก Bodega ในโปรเจกต์ ASICS x Bodega และได้เปิดตัวรองเท้า ASICS GEL-MC PLUS ที่กลายเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์คลาสสิกของแบรนด์

‘ASICS’ จาก ‘รองเท้ากีฬา‘ ยอดฮิต สู่ ‘ม้ามืดวงการสนีกเกอร์‘ ระดับโลก

BODEGA X ASICS GEL-MC PLUS (Bodega)

ส่วนหนึ่งจากบทสัมภาษณ์ของแอนดรูว์ระบุว่า ASICS เป็นรองเท้าที่ใส่สบายมาก โดยเฉพาะเทคโนโลยีเจลที่มีไว้เพื่อกันกระแทก และจะคงอยู่ต่อไปในอนาคต (อ้างอิงจาก Gear Patrol)

กิโก คอสตาดินอฟ (Kiko Kostadinov) ดีไซเนอร์ชาวบัลแกเรีย เป็นอีกคนที่ได้ร่วมงานกับ ASICS ซึ่งเขาได้นำรองเท้ารุ่น GEL-Nimbus 20 และ GEL-Venture 6 มาออกแบบใหม่ โดยการปรับปรุงให้มีความทันสมัยและใส่สบายมากขึ้น รองเท้าคู่นั้นมีชื่อว่า GEL-Burz 1

‘ASICS’ จาก ‘รองเท้ากีฬา‘ ยอดฮิต สู่ ‘ม้ามืดวงการสนีกเกอร์‘ ระดับโลก ASICS Gel-Burz 1 (StockX)

ก่อนหน้านี้ ASICS ถูกมองว่าเป็นรองเท้าที่ได้รับความนิยมในกลุ่มคนมีอายุหรือผู้รักสุขภาพ ทำให้จัดอยู่ในรองเท้าประเภท “Dad Sneakers” แต่ปัจจุบันผู้ที่ชื่นชอบแบรนด์นี้กลับมีอายุลดลง เพราะคนรุ่นใหม่มองว่านอกจากความสวยงามแล้ว ความสบายก็เป็นเหตุผลสำคัญในการซื้อรองเท้า

อ่านข่าว : 

‘Dad Sneakers’ สุดฮิต! จากรองเท้าแสนเชยรุ่นพ่อ สู่รองเท้าสุดคูลในรุ่นลูก

สำหรับผลงานระหว่าง ASICS และแบรนด์อื่นๆ ก็มีออกมาให้เห็นกันอย่างต่อเนื่อง เช่น JJJJound, Dime, Cecilie Bahnsen, WIND AND SEA และ HAL Studios แต่ไม่ใช่แค่นั้น อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ ASICS เป็นที่ยอมรับในวงการสนีกเกอร์ก็คือ การคว้ารางวัลแบรนด์รองเท้าแห่งปี (Best Footwear Brands) จาก Hypebeast100 Awards ที่จัดลำดับโดยเว็บไซต์แฟชั่นชื่อดัง Hypebeast ถึง 2 ปีซ้อน (2022-2023)

‘ASICS’ จาก ‘รองเท้ากีฬา‘ ยอดฮิต สู่ ‘ม้ามืดวงการสนีกเกอร์‘ ระดับโลก

Hypebeast100 Awards (Hypebeast)

โดย Hypebeast100 Awards เป็นรางวัลที่มอบให้เพื่อยกย่องแบรนด์หรือดีไซเนอร์ที่ดีที่สุดประจำปี ตัดสินจากหลายองค์ประกอบด้วยกัน เช่น ดีไซน์ของสินค้า นวัตกรรม การตลาด ไปจนถึงการมีส่วนร่วมกับชุมชน

สาเหตุที่ทำให้ ASICS ได้รับรางวัลนั้นมาจากการพัฒนาแบรนด์ด้วยการนำรองเท้าโมเดลเก่าๆ มาต่อยอดให้โดดเด่นมากขึ้น แต่ก็ยังรักษาความคลาสสิกตามแบบฉบับดั้งเดิมเอาไว้ได้ ในขณะเดียวกันก็สามารถขยายฐานไปยังผู้บริโภคกลุ่มใหม่ๆ ได้มากขึ้น ด้วยการออกแบบรองเท้าให้มีความเป็นไลฟ์สไตล์มากกว่ารองเท้ากีฬา ที่สำคัญนอกจากแบรนด์แฟชั่นแล้ว ASICS ยังมีคอลเลกชันพิเศษร่วมกับ “Naruto” การ์ตูนชื่อดังของญี่ปุ่นที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกอีกด้วย

ASICS ไม่เพียงแต่อินเทรนด์ในอุตสาหกรรมรองเท้าเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวกำหนดเทรนด์ในอุตสาหกรรมดังกล่าวอีกด้วย และด้วยเหตุนี้ Hypeawads จึงยกให้เป็นแบรนด์รองเท้าที่ดีที่สุดแห่งปี” ข้อความส่วนหนึ่งจากการประกาศรางวัล Hypeawards

ไม่ใช่แค่คว้ารางวัลได้เท่านั้น แต่ ASICS ยังสามารถเอาชนะคู่แข่งแบรนด์เจ้าตลาดที่เข้าชิงในสาขาเดียวกันอย่าง “ADIDAS” ได้อีกด้วย ทางด้าน “NIKE” ในปีที่แล้วแม้จะได้รางวัล Best Sneaker ไป แต่ปีนี้มีเพียงชื่อเข้าชิงในสาขาเดิมเท่านั้น

ท้ายที่สุดนี้ถือว่า “ASICS” เป็น “ม้ามืดวงการสนีกเกอร์” ก็ว่าได้ แต่ก็ต้องจับตาดูกันต่อไปว่าจะสามารถยืนอยู่บนหัวตารางของวงการได้นานแค่ไหน เพราะนอกจาก ADIDAS, NIKE และ CONVERSE ที่เป็นแบรนด์ระดับท็อปแล้ว ยังมีรองเท้าที่พัฒนามาจากรองเท้ากีฬาเข้ามาแข่งขันในตลาดอย่างดุเดือด ไม่ว่าจะเป็น ON, HOKA, SALOMON และ NEW BALANCE

อ้างอิงข้อมูล : ASICSGear PatrolHypebeast, Wipo และ Run4it

Adblock test (Why?)

อ่านบทความและอื่น ๆ ( 'ASICS' จาก 'รองเท้ากีฬา' ยอดฮิต สู่ 'ม้ามืดวงการสนีกเกอร์' ระดับโลก - กรุงเทพธุรกิจ )
https://ift.tt/G6Vk3Nw
กีฬา

Bagikan Berita Ini

0 Response to "'ASICS' จาก 'รองเท้ากีฬา' ยอดฮิต สู่ 'ม้ามืดวงการสนีกเกอร์' ระดับโลก - กรุงเทพธุรกิจ"

Post a Comment

Powered by Blogger.