Search

สั่งแบน เปาฑิธีชัย12สัปดาห์, ชัยฤกษ์ดูVARโดน4สัปดาห์ - สยามกีฬา

สั่งแบนเปาฑิธีชัย12สัปดาห์, ชัยฤกษ์ดูVARโดน4สัปดาห์ตัดสินพลาดเกมขอนแก่น-แบงค็อก

ควันหลงหลังจากที่ คณะกรรมการพิจารณาวินัยมารยาท สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ มีมติลงโทษ ขอนแก่น ยูไนเต็ด จากเหตุการณ์วอล์คเอาท์ในเกมรีโว่ ไทยลีก 2021-22 ที่เปิดบ้านแพ้ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด 0-1 เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา โดยปรับเงินจำนวน 50,000 บาท ล่าสุดบทลงโทษผู้ตัดสินได้ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซี่งเป็นไปตามที่สโมสร ขอนแก่น ยูไนเต็ด ได้ร้องเรียนไปทั้ง 2 เคส ฑิธีชัย นวลจันทร์ ผู้ตัดสินที่ 1 โดนแบนรวม 12 สัปดาห์ ขณะที่ ชัยฤกษ์ งามสม ผู้ตัดสินในห้อง VAR  โดนแบนรวม 4 สัปดาห์

     คณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์แจ้งผลการพิจารณาการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ตัดสินหลังสโมสรขอนแก่น ยูไนเต็ด ยื่นเรื่องร้องเรียนการทำหน้าที่ในเกมพบ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด โดยมีใจความระบว่า

    ตามที่ สโมสรขอนแก่น ยูไนเต็ด ส่งเรื่องร้องเรียนการทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน ในการแข่งขันฟุตบอลรายการไฮลักซ์รีโว่ ไทยลีก คู่ระหว่างสโมสรขอนแก่น ยูไนเต็ด กับ สโมสรทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2564 เวลา 18.30 น. ณ สนาม อบจ.ขอนแก่น โดยสโมสรส่งเรื่องร้องเรียนการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ตัดสินจำนวน 2 เหตุการณ์ดังนี้

    เหตุการณ์ที่ 1 ในนาทีที่ 90 จังหวะที่ผู้เล่นฝ่ายรุกสโมสรทรูแบงค็อก ยูไนเต็ด เปิดบอลเข้ามาในเขตโทษ บอลกระดอนพื้นแล้วลอยกลางอากาศ ผู้เล่นฝ่ายรับของสโมสรขอนแก่น ยูไนเต็ด และผู้เล่นฝ่ายรุกของสโมสรทรูแบงค็อก ยูไนเต็ด วิ่งเข้าหาลูกบอลเพื่อเล่นบอล ผู้เล่นฝ่ายรับสโมสรขอนแก่น ยูไนเต็ด เจตนาสกัดที่บอล ในขณะเดียวกันผู้เล่นฝ่ายรุกสโมสรทรูแบงค็อก ยูไนเต็ด กระโดดลอยตัวมาจากด้านหลังของผู้เล่นฝ่ายรับสโมสรขอนแก่น ยูไนเต็ด โดยมีการจัดระเบียบร่างกาย ใช้แขนเพื่อเจตนาช่วยบังคับทิศทางของลูกบอล (ซึ่งลูกบอลสัมผัสโดนแขนของผู้เล่นฝ่ายรุกในเขตโทษ ในจังหวะที่ผู้เล่นฝ่ายรุกพยายามทำประตู) โดยสังเกตทิศทางของลูกบอลที่เปลี่ยนไปจากการสัมผัสลูกบอลที่แขนของผู้เล่นฝ่ายรุก ซึ่งลักษณะดังกล่าวมีระบุในเรื่องนี้ตาม IFAB Laws of the Game 2021/22 ผู้ตัดสินได้ดูVAR ซึ่งสามารถเห็นว่าลูกบอลสัมผัสแขนของผู้เล่นฝ่ายรุก แต่ผู้ตัดสินก็มีการเปลี่ยนคำตัดสินหลังจากดูVAR กลับมาให้จุดโทษแก่สโมสรทรูแบงค็อก ยูไนเต็ด หลังจากนั้นเมื่อมีการยิงจุดโทษของผู้เล่นหมายเลข 10 MR. VANDER LUIS SILVA SOUZA สโมสรทรูแบงค็อก ยูไนเต็ด มีการแสดงความดีใจหลังทำประตูได้โดยมีการกระทำในลักษณะยั่วยุ เยาะเย้ย ล้อเลียน ตามในระบุ ใน IFAB Laws of the Game 2021/22 ฉบับภาษาไทย หน้า 104 ตามความละเอียดทราบแล้วนั้น

    คณะอนุกรรมการพิจารณาการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ตัดสินฯ ได้พิจารณาจากหลักฐานคลิป ภาพ เห็นว่า ผู้ตัดสินได้แจ้งว่าผู้เล่นฝ่ายรับเจตนาเตะที่ลูกบอล จึงไม่มีการเป่าฟาล์วใดๆ VAR ทำการตรวจสอบแล้ว เห็นต่างจากผู้ตัดสินว่าผู้เล่นฝ่ายรับเตะไม่โดนที่ลูกบอล แต่โดนด้านข้างลำตัวของผู้เล่นฝ่ายรุก จึงแจ้งให้ผู้ตัดสินมาทำการตรวจสอบ เมื่อผู้ตัดสินตรวจสอบแล้วให้เป็นจุดโทษแก่สโมสรทรูแบงค็อก ยูไนเต็ด คณะอนุกรรมการฯ เห็นว่าผู้เล่นทั้งสองทีมพยายามเข้าแย่งชิงลูกบอล โดยผู้เล่นฝ่ายรับพยายามเตะที่ลูกบอล และผู้เล่นฝ่ายรุกมีการวิ่งเข้าหาเกิดการสัมผัสกันจนล้มลง แต่ไม่มีการกระทำผิดกติกาของผู้เล่นทั้งสอง คณะอนุกรรมการพิจารณาการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ตัดสินฯ มีมติเป็นเอกฉันท์ว่า นายฑีธิชัย นวลจันทร์ผู้ตัดสิน ปฏิบัติหน้าที่ผิดพลาด ให้ลงโทษตามบทลงโทษ หมวดที่ 9 ลักษณะโทษ ข้อ 57 (8) พักการปฏิบัติหน้าที่ 6 สัปดาห์และนายชัยฤกษ์งามสม ผู้ช่วยผู้ตัดสิน VAR ปฏิบัติหน้าที่ผิดพลาด ปฏิบัติหน้าที่บกพร่อง ให้ลงโทษตามบทลงโทษหมวดที่ 9 ลักษณะโทษข้อ 57 (2) ภาคทัณฑ์
เนื่องจากเป็นกรณีไม่มีความผิดพลาดอย่างชัดเจน และเหตุการณ์ไม่ใช่กรณีความผิดพลาดอย่างชัดเจนของผู้ตัดสินไม่ควรแจ้งให้ผู้ตัดสินมาทำการตรวจสอบ ควรยืนยันตามคำตัดสินของผู้ตัดสิน ตามหลัก VAR protocol

    ส่วนการกระทำของผู้เล่นหมายเลข 10 MR. VANDER LUIS SILVA SOUZA สโมสรทรูแบงค็อก ยูไนเต็ด หลังจากมีการยิงลูกจุดโทษแล้วนั้น ตาม Laws of the Game 2021/22 ฉบับภาษาไทย หน้า 104 ระบุไว้ว่าการแสดงความดีใจหลังจากทำประตูได้ผู้เล่นสามารถแสดงความดีใจหลังทำประตูได้แต่การแสดงความดีใจจะต้องไม่มากเกินไป ไม่สนับสนุนการดีใจด้วยการใช้ท่าเต้นและจะต้องไม่ทำให้เสียเวลามากเกินไป การออกจากสนามแข่งขันเพื่อแสดงความดีใจหลังทำประตูไม่ใช่ความผิดที่ต้องถูกคาดโทษ แต่ผู้เล่นควรกลับมาโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้คณะอนุกรรมการพิจารณาการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ตัดสินแล้ว เห็นว่า การกระทำของผู้เล่นเป็นการกระทำปกติทั่วไป และไม่ได้ใช้เวลาที่มากนัก ถือว่าเหตุการณ์ดังกล่าวผู้ตัดสินไม่จำเป็นต้องให้ใบเหลืองแก่ผู้เล่น

    เหตุการณ์ที่ 2 หลังจากที่เกิดจุดโทษลูกแรกให้กับสโมสรทรูแบงค็อก ยูไนเต็ด (ทีมเยือน) การแข่งขันดำเนินต่อไปจนถึงนาทีที่ 90+18 จังหวะที่ผู้เล่นฝ่ายรุกสโมสรขอนแก่น ยูไนเต็ด พยายามโยนบอลเข้าไปในเขตโทษ ผู้เล่นหมายเลข 36 สโมสรขอนแก่น ยูไนเต็ด โหม่งบอลลอยเข้าไปกลางประตูให้กับผู้เล่นหมายเลข 9 สโมสรขอนแก่น ยูไนเต็ด กระโดดเพื่อเล่นลูกบอลที่ลอยอยู่กลางอากาศ พร้อมผู้เล่นฝ่ายรับสโมสรทรูแบงค็อก ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นการเบียดแย่งโหม่ง และเป็นฝ่ายรับที่โหม่งบอลออกมาได้ ผู้ตัดสินได้ดูVAR และเปลี่ยนมาให้จุดโทษแก่สโมสรขอนแก่น ยูไนเต็ด แม้ทีมเหย้า (เจ้าบ้าน) จะได้ประโยชน์กับการตัดสินจังหวะนี้แต่เพื่อความถูกต้องและเป็นธรรมต่อการตัดสิน สโมสรมีความน่าสงสัยในการตัดสิน ซึ่งถ้าเหตุการณ์ดังกล่าวในลักษณะนี้สามารถเป็นจุดโทษ ก็จะกลายเป็นบรรทัดฐานต่อไปในการเล่นลูกลักษณะนี้ในการแข่งขันนัดอื่นๆ ได้

    คณะอนุกรรมการพิจารณาการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ตัดสินฯ ได้พิจารณาจากหลักฐานคลิป ภาพ เห็นว่าผู้เล่นมีการกระโดดโหม่งแย่งชิงลูกบอล จึงไม่ได้มีการเป่าฟาล์วใดๆ และ VAR ได้ทำการตรวจสอบแล้ว เห็นว่าผู้เล่นฝ่ายรับกระโดดโหม่งไม่โดนลูกบอล แต่ไปชนผู้เล่นฝ่ายรุกจากด้านหลัง จึงแจ้งให้ผู้ตัดสินมาทำการตรวจสอบเมื่อตรวจสอบแล้วผู้ตัดสินให้เป็นจุดโทษกับสโมสรแขนแก่น ยูไนเต็ด คณะอนุกรรมการฯ เห็นว่า ผู้เล่นทั้งสองได้กระโดดขึ้นโหม่งแย่งชิงลูกบอลตามปกติไม่มีการกระทำผิดกติกาของผู้เล่นทั้งสอง คณะอนุกรรมการพิจารณาการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ตัดสินฯ มีมติเป็นเอกฉันท์ว่า นายฑีธิชัย นวลจันทร์ผู้ตัดสิน ปฏิบัติหน้าที่ผิดพลาด ให้ลงโทษตามบทลงโทษหมวดที่ 9 ลักษณะโทษข้อ 57 (8) พักการปฏิบัติหน้าที่ 6 สัปดาห์และนายชัยฤกษ์งามสม ผู้ช่วยผู้ตัดสิน VAR ปฏิบัติหน้าที่บกพร่อง ให้ลงโทษตามบทลงโทษหมวดที่ 9 ลักษณะโทษข้อ 57 (2) ภาคทัณฑ์กรณีไม่มีความผิดพลาดอย่างชัดเจน ได้แจ้งให้ผู้ตัดสินมาทำการตรวจสอบ เนื่องจากเหตุการณ์ไม่ใช่กรณีความผิดพลาดอย่างชัดเจนของผู้ตัดสิน ไม่ควรแจ้งให้ผู้ตัดสินมาทำการตรวจสอบ ควรยืนยันตามคำตัดสินของผู้ตัดสิน ตามหลัก VAR protocol

    คณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท ได้พิจารณาจากรายงานของคณะอนุกรรมการพิจารณาการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ตัดสินฯ และจากการดูคลิปประกอบเหตุการณ์แล้ว เห็นด้วยกับผลการพิจารณาของคณะอนุกรรมการฯ ทั้ง 2 เหตุการณ์ ว่าผู้ตัดสินและผู้ช่วยผู้ตัดสิน VAR ปฏิบัติหน้าที่ผิดพลาดตามที่คณะอนุกรรมการเสนอมา แต่ยังไม่เห็นด้วยกับบทลงโทษ คณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท จึงมีมติเป็นเอกฉันท์ลงโทษนายฑีธิชัย นวลจันทร์ผู้ตัดสิน ปฏิบัติหน้าที่ผิดพลาด ให้ลงโทษตามบทลงโทษหมวดที่ 9 ลักษณะโทษข้อ 57 (8) พักการปฏิบัติหน้าที่เหตุการณ์ละ 6 สัปดาห์รวมให้พักการปฏิบัติหน้าที่ 12 สัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 18 พฤศจิกายน 2564 ถึง วันที่ 10 กุมภาพันธ์2565 และลงโทษนายชัยฤกษ์งามสม ผู้ช่วยผู้ตัดสิน VAR ปฏิบัติหน้าที่ผิดพลาด ให้ลงโทษตามบทลงโทษหมวดที่ 9 ลักษณะโทษข้อ 57 (8) พักการปฏิบัติหน้าที่เหตุการณ์ละ 2 สัปดาห์รวมให้พักการปฏิบัติหน้าที่ 4 สัปดาห์ตั้งแต่วันที่ 18 พฤศจิกายน 2564 ถึง วันที่ 16 ธันวาคม 2564

    ทั้งนี้หากขอนแก่น ยูไนเต็ดไม่เห็นด้วยกับคำตัดสิน สามารถยื่นอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการอุทธรณ์เป็นลายลักษณ์อักษร พร้อมวางเงินอุทธรณ์กรณีละ 5,000 บาท ภายใน 24 ชั่วโมงนับแต่วันที่ได้รับแจ้งผลการพิจารณา

อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามข่าวสาร
Add friend ที่ @Siamsport
เพิ่มเพื่อน

Adblock test (Why?)

อ่านบทความและอื่น ๆ ( สั่งแบน เปาฑิธีชัย12สัปดาห์, ชัยฤกษ์ดูVARโดน4สัปดาห์ - สยามกีฬา )
https://ift.tt/3oHY6p2
กีฬา

Bagikan Berita Ini

0 Response to "สั่งแบน เปาฑิธีชัย12สัปดาห์, ชัยฤกษ์ดูVARโดน4สัปดาห์ - สยามกีฬา"

Post a Comment

Powered by Blogger.