แข้งตาบอดวางเป้าเข้าตัดเชือกเชื่อมั่นสู้ได้ทุกทีมมีลุ้นเหรียญพาราฯ - สยามกีฬา

อำนวย กลิ่นอยู่ นายกสมาคมกีฬาคนตาบอดแห่งประเทศไทย เผยนักเตะไทยเก็บตัวฝึกซ้อมมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังได้นักวิทยาศาสตร์การกีฬาด้านต่างๆ ช่วยวางแผนดูแลและฟื้นฟูอาการบาดเจ็บ รวมถึงเรื่องโภชนาการ มั่นใจสภาพร่างกายฟิตเต็มร้อย เป้าหมายคือคว้าเหรียญทองพาราลิมปิกเกมส์ครั้งนี้ให้ได้

ความเคลื่อนไหวของทัพนักกีฬาฟุตบอลคนตาบอดทีมชาติไทยที่เตรียมเข้าร่วมแข่งขันมหกรรมกีฬาพาราลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 16 ที่กรุง
โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 24 ส.ค. - 5 ก.ย.64 ซึ่งการคว้าสิทธิ์เข้าร่วมของทัพฟุตบอลคนตาบอดทีมชาติไทยครั้งนี้เป็นการสร้างประวัติศาสตร์ให้แก่ประเทศไทยเนื่องจากยังไม่เคยมีชนิดกีฬาประเภททีมเข้าร่วมรายการระดับพาราลิมปิกเกมส์หรือโอลิมปิกเกมส์ได้มาก่อน โดยนักกีฬาทั้ง 10 คนกำลังเก็บตัวฝึกซ้อมในช่วงโค้งสุดท้ายกันที่เอมพันธ์สปอร์ต จ.นนทบุรี อยู่ในเวลานี้

ล่าสุด นายอำนวย กลิ่นอยู่ นายกสมาคมกีฬาคนตาบอดแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาได้มาการเก็บตัวฝึกซ้อมมาอย่างต่อเนื่อง
พร้อมกับส่งทีมออกไปแข่งขันเพื่อเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ อีกทั้งในครั้งนี้ทางสมาคมฯ ได้นำนักวิทยาศาสตร์การกีฬาด้านต่างๆ เช่น นักกายภาพบำบัด, นักโภชนาการ, นักจิตวิทยา, มาช่วยวางแผนงานอย่างเป็นระบบในการสร้างกล้ามเนื้อ ดูแลฟื้นฟูอาการบาดเจ็บ รวมถึงการดูเรื่องโภชนาการอาหารให้นักกีฬาด้วย ทำให้มั่นใจว่านักกีฬาสมบูรณ์มาก และแน่นอนเป้าหมายคือการทำผลงานคว้าเหรียญทองในพาราลิมปิกเกมส์ครั้งนี้ให้ได้

ด้าน "โค้ชก้อง" ก้องเกียรติ ก้องแดนไพร หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมฟุตบอลคนตาบอดทีมชาติไทย กล่าวว่า ทีมเก็บตัวฝึกซ้อมมาตั้งแต่ช่วง
ปลายปีที่แล้ว ทำให้มีความพร้อมกว่า 80 เปอร์เซ็น แม้ว่าจะมีนักเตะหลายคนที่มีอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่บ้าง แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไร คาดว่าทีมน่าจะพร้อมสมบูรณ์แบบร้อยเปอร์เซ็นก่อนออกเดินทางอย่างแน่นอน อย่างไรก็ดีที่ผ่านมาเราค่อนข้างมีความกังวลเรื่องไวรัสโควิด-19 เพราะเกรงว่านักกีฬาอาจจะไปติด ทำให้ได้มีการวางมาตรการในการป้องกันอย่างรัดกุมมาโดยตลอด

"จากเมื่อช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาเราได้มีโอกาสไปเข้าร่วมการแข่งขันรายการ เวิลด์ กรังด์ปรี ที่ประเทศญี่ปุ่น ทำให้เราได้เจอทั้ง อาร์เจนติน่า และ สเปน และหลายๆ ทีมที่จะได้เข้าร่วมการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ ทำให้ตอนนี้นักเตะเราไม่กลัวใครแล้ว เราคิดว่าสามารถสู้ได้กับทุกทีม ซึ่งเราหวังเราจะเข้ารอบ 4 ทีมสุดท้ายให้ได้ สำหรับคู่แข่งนั้นทุกทีมมีความแข็งแกร่ง แต่เรามั่นใจว่าเราจะสามารถทำผลงานได้ดี" โค้ชก้องกล่าว

ขณะที่ "เต๋า" ปัญญาวุฒิ คุพันธ์ ดาวยิงตัวเก่งของทีมเผยว่า จากที่ได้มีการเก็บตัวฝึกซ้อมมาอย่างยาวนานกว่า 10 เดือน ทำให้มีความพร้อมแบบเต็มที่แล้ว แม้ว่าที่ผ่านมาต้องประสบปัญหาเรื่องการไม่มีเกมอุ่นเครื่องเนื่องด้วยสถานการณ์โควิด-19 ก็ตาม ส่วนเป้าหมายนั้นส่วนตัวตนเชื่อมั่นว่ามีโอกาสที่จะเข้าไปถึงรอบ 4 ทีมสุดท้าย และเมื่อไปถึงตรงนั้นอะไรก็เกิดขึ้นได้ ส่วนคู่แข่งสำคัญตนมองว่าทุกทีมที่เข้ามาในพาราลิมปิกเกมส์ครั้งนี้ถือเป็นทีมที่แข็งแกร่งเท่าเทียมกัน แต่อย่างไรก็อยากขอกำลังใจให้กับทัพนักกีฬาคนพิการและทีมฟุตบอลคนตาบอดในการแข่งขันพาราลิกเกมส์ในครั้งนี้กันเยอะๆ ด้วย

การแข่งขันฟุตบอลคนตาบอดในพาราลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 16 จะมีทั้งหมด 8 ทีม แบ่งการชิงชัยรอบแรกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม แข่ง
แบบพบกันหมดในกลุ่มเพื่อนำ 2 ทีมที่ผลงานดีที่สุดผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศต่อไป โดยแข้งคนตาบอดไทยอยู่กลุ่ม บี ร่วมกับ สเปน, โมร็อกโค และ อาร์เจนตินา ออกสตาร์ตแมตช์แรกวันที่ 29 ส.ค. พบ สเปน เวลา 17.30 น.(ตามเวลาประเทศไทย), วันที่ 30 ส.ค. พบ โมร็อกโค เวลา 14.30 น. และ วันที่ 1 ก.ย. พบ อาร์เจนตินา เวลา 14.30 น.

ทั้งนี้การแข่งขันฟุตบอลคนตาบอด จะลงสนามได้ทีมละ 5 คน ประกอบด้วยนักเตะ 4 คน และผู้รักษาประตู 1 คน โดยผู้รักษาประตู
สามารถเป็นคนตาปกติได้ แต่ห้ามลงทะเบียนในการเป็นนักเตะฟีฟ่าอย่างน้อย 5 ปี ส่วนลูกบอลจะมีเสียงเพื่อให้ผู้เล่นสามารถรับรู้ได้ว่าลูกบอลอยู่ตรงไหน และแข่งขันกันครึ่งละ 25 นาที

รายชื่อนักฟุตบอลคนตาบอดทั้ง 10 คน ประกอบด้วย พรชัย กสิกรอุดมไพศาล (ผู้รักษาประตู), วรสันห์ พันธ์สวัสดิ์ (ผู้รักษาประตู),
ประคอง บัวใหญ่, กิตติกร บัวดี, ปัญญาวุฒิ คุพันธ์, สุริยะ ยิ่งชูรส, กิตติธัช วิมลวรรณ์, สนั่น เพชรกระจ่างสุข, เทิดเกียรติ บุญเที่ยง และ บรรชา มูลเพชร โดยทัพนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ทีมทั้งหมดจะออกเดินทางไปยังกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นเป็นทัพที่ 4 ของทัพนักกีฬาคนพิการทีมชาติไทยทั้งหมด เดินทางวันที่ 21 ส.ค.64 ด้วยสายการบินเจแปนแอร์ไลน์ เวลา 22.55 น.