Search

คอลัมน์การเมือง - ไทยเป็นเจ้าภาพจัดกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 - หนังสือพิมพ์แนวหน้า

เมื่อวันพุธที่ 17 พฤษภาคม 2566 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย และประธานกองทุนการกีฬาแห่งประเทศไทย ได้เดินทางไปร่วมพิธีปิดและรับส่งมอบธงซีเกมส์ให้กับไทย เป็นเจ้าภาพครั้งที่ 33 ปี 2568 พร้อมขอบคุณและแสดงความยินดีกับนักกีฬาทีมชาติไทยที่ทำผลงานได้ดีเยี่ยมจากกีฬาสากล ณ สนามกีฬามรดกเตโชเนชั่นแนลสเตเดียม ของราชอาณาจักรกัมพูชา

โดย พล.อ.ประวิตร ได้พบปะและแสดงความขอบคุณนักกีฬาทีมชาติไทย รวมทั้งทีมงาน พร้อมทั้งกล่าวย้ำ ขอให้นักกีฬา รวมทั้งทุกสมาคมกีฬาและทีมงาน ได้เก็บประสบการณ์จากการแข่งขันและการบริหารจัดการที่ผ่านมา นำไปสู่การจัดทำบทเรียนร่วมกัน เพื่อเตรียมการพัฒนาการฝึกซ้อมให้เสมือนจริง มุ่งเล็งผลเลิศสู่เป้าหมายผลการแข่งขันที่ดีขึ้นต่อไป โดยเฉพาะรายการแข่งขันระดับโลกที่จะมาถึง


จากน้ัน พล.อ.ประวิตร และคณะ ได้ร่วมพิธีปิดการแข่งขันซีเกมส์ครั้งที่ 32 โดยเป็นตัวแทนรับการส่งมอบธงซีเกมส์ให้กับประเทศไทย ซึ่งไทยจะเป็นเจ้าภาพในการแข่งขันซีเกมส์ครั้งที่ 33 ในปี 2568 ซึ่งถือเป็นความภาคภูมิใจร่วมกัน ที่เราคนไทยด้วยกัน เราจะได้ร่วมกันแสดงออกถึงศักยภาพ ความพร้อมและความเป็นหนึ่งเดียวกัน ในการเป็นเจ้าบ้านที่ดี ให้การต้อนรับนักกีฬาจากทุกชาติและการบริหารจัดการแข่งขันที่เป็นสากลและเป็นที่ยอมรับร่วมกันต่อไป

ด้านนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ รองประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ คนที่ 1 ดร.ก้องศักด ยอดมณีผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ได้ร่วมกันเผยว่า 3 จังหวัดเจ้าภาพหลักคือ กรุงเทพมหานคร โดยผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยาและนายเจษฎาจิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ร่วมกันดำเนินการจัดการแข่งขันในระหว่างวันที่ 9-20 ธันวาคม ปี 2568

สำหรับชนิดกีฬาสากลที่ประเทศไทยจะจัดการแข่งขันนั้นจะมีไม่เกิน 40 ชนิดกีฬาด้วยกันจะกระจายจัดที่กทม.,เมืองพัทยาชลบุรี,จังหวัดสงขลา ประเภทการแข่งขันจะประชุมกันอีกหลายครั้งกำหนดให้เน้นกีฬาสากลไม่เอากีฬาพื้นบ้านแบบกัมพูชาและเวียดนาม สนามแข่งขันในกทม. เช่น ราชมังคลากีฬาสถาน หัวหมาก สนามเวลโลโดรม หัวหมาก สนามยิงธนูหัวหมาก สนามกีฬามหาวิทยาลัยรามคำแหง หัวหมาก สนามกีฬาอินดอร์สเตเดี้ยมหัวหมาก สนามเปตองนานาชาติ ของสมาคมกีฬาเปตองหัวหมาก สนามยิงปืนหัวหมาก สนามกีฬาขี่ม้าแห่งประเทศไทย กองพลทหารม้าที่ 2 สนามเป้าสนามมวยเวทีราชดำเนิน สนามมวยเวทีลุมพินีกองทัพบก ถนนรามอินทรา ฯลฯ

เมืองพัทยา ชลบุรี เช่น สนามกีฬาในร่มเมืองพัทยาสนามเรือพายและเรือแคนู อ่างเก็บน้ำ มาบประชันหาดพัทยา อ่าวดงตาล สัตหีบ สนามกีฬามหาวิทยาลัยบูรพา บางแสน สนามกีฬามหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติชลบุรี เป็นต้น

ส่วนที่จังหวัดสงขลาจะจัดแข่งขันฟุตบอลชายและหญิง เซปักตะกร้อชายและหญิง ปันจักสีลัตชายหญิง ได้แก่ สนามกีฬาติณสูลานนท์ อำเภอเมืองสงขลาที่ตำบลบ่อยาง สนามกีฬาจิระนคร เทศบาลนครหาดใหญ่ สนามกีฬามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตคอหงส์ สนามกีฬามหาวิทยาลัยทักษิณ สงขลา สนามกีฬามหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา

ดร.ก้องศักดิ กล่าวอีกว่าประเทศไทยถือว่ามีสนามแข่งขันกีฬาครบทุกชนิดอันดับ 1 ของชาติอาเซียนแน่นอน เราไม่ต้องสร้างใหม่ เพราะในระยะ 9 ปีที่ผ่านมาเราได้ซ่อมบำรุงมาเป็นอย่างดี และมีความพร้อมเป็นเจ้าภาพทั้งยานพาหนะ โรงแรมที่พัก สนามแข่งขัน สนามซ้อมครบทุกชนิดกีฬา ดังนั้นกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 33 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพจะดีที่สุดอย่างแน่นอน โดยอยู่ในระดับเดียวกับสาธารณรัฐประชาชนจีนและญี่ปุ่นเลยทีเดียว

Adblock test (Why?)

อ่านบทความและอื่น ๆ ( คอลัมน์การเมือง - ไทยเป็นเจ้าภาพจัดกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 - หนังสือพิมพ์แนวหน้า )
https://ift.tt/yUhfqmu
กีฬา

Bagikan Berita Ini

0 Response to "คอลัมน์การเมือง - ไทยเป็นเจ้าภาพจัดกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 - หนังสือพิมพ์แนวหน้า"

Post a Comment

Powered by Blogger.