สนามกีฬาแห่งชาติสิงคโปร์ ความทรงจำสวยงามของ "ช้างศึก" - สยามกีฬา

ความทรงจำ ณ สนามกีฬาแห่งชาติสิงคโปร์ ทัพ"ช้างศึก" ทีมชาติไทย เคยถล่มอินโดมาแล้ว ก่อนหยิบเหรียญทองซีเกมส์ครั้งที่ 28 และขุนพลชุดซูซูกิ คัพ 2020 หลายคนอยู่ในชุดนั้นด้วย

สนามกีฬาแห่งชาติสิงคโปร์ สังเวียนรอบชิงชนะเลิศ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ 2020 นัดแรกจะเตะในวันพุธที่ 29 ธ.ค.64 และนัดที่สอง จะเตะในวันเสาร์ที่ 1 ม.ค.65 โดยทั้งสองนัดจะแข่งขันเวลา 19.30 น. ตามเวลาประเทศไทย ถ่ายทอดสดทางช่อง 7 HD และช่อง AIS Play

สังเวียนแห่งนี้เปิดใช้งานครั้งแรกเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2557 จากนั้นในปีถัดมาประเทศสิงคโปร์ ก็รับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 28 ช่วงระหว่างวันที่ 29 พฤษภาคม - 15 มิถุนายน 2558 ซึ่งสนามแห่งนี้ใช้ทำการแข่งขันฟุตบอลในรอบรองชนะเลิศ และชิงชนะเลิศเท่านั้น

ซึ่งจำกันได้หรือไม่ว่า ในรอบรองชนะเลิศเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2558 ทีมชาติไทย พบ ทีมชาติอินโดนีเซีย เกมนั้นทัพ"ช้างศึก" ไล่ต้อนทัพอิเหนา 5-0 จาก รุ่งรัฐ ภูมิจันทึก 2 ประตูส่วนอีก 3 ประตูมาจากฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ , นฤบดินทร์ วีรวัฒโนนม และ ชนาธิป สรงกระสินธ์

จากนั้นวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2558 ทีมชาติไทยที่ผ่านเข้าชิงชนะเลิศ พบกับทีมชาติเมียนมา ซึ่งทีมชาติไทยยังเอาชนะไปได้ 3-0 จากการยิงของ ธนบูรณ์ เกษารัตน์ ,ชนานันท์ ป้อมบุปผา และ ภิญโญ อินพินิจ ส่งผลให้ทีมชาติไทยคว้าเหรียญทองซีเกมส์ ครั้งที่ 28 ณ สนามกีฬาแห่งชาติสิงคโปร์แห่งนี้อย่างภาคภูมิสมศักดิ์ศรี

นี่คือประวัติศาสตร์บทหนึ่งของทัพ" ช้างศึก" ที่สร้างขึ้นบนสังเวียนพื้นหญ้า ณ สนามฟุตบอลกีฬาแห่งชาติสิงคโปร์ ที่นักเตะชุดเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ หลายราย อาทิ สุริยา สิงห์มุ้ย, สารัช อยู่เย็น, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม, ปกรณ์ เปรมภักดิ์, ชนาธิป สรงกระสินธ์, ทริสตอง โด ยังคงมีความทรงจำที่ดี ณ สนามแห่งนี้

การกลับมาเล่นที่สนามกีฬาแห่งชาติสิงคโปร์อีกครั้ง และหวนมาเจอกับคู่แข่งอย่างทีมชาติอินโดนีเซียนั้น บรรยากาศและภาพความทรงจำเดิมๆ จากรอบรองชนะเลิศ เมื่อคราวซีเกมส์ครั้งที่ 28 จะวนย้อนกลับมาอีกหรือไม่น่าติดตาม.... ไม่เชื่ออย่าลบหลู่!!!

อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามข่าวสาร
Add friend ที่ @Siamsport