เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2564 ที่ศาลจังหวัดมีนบุรี ศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีพนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 12 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายเสกสรรค์ ศุขพิมาย หรือเสก โลโซ ศิลปินร็อกเกอร์ชื่อดัง อายุ 47 ปี เป็นจำเลย ฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานระหว่างปฏิบัติตามหน้าที่ฯ ตามป.อาญามาตรา 138 ฐานเสพยาเสพติดและฐานมีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน กรณีเมื่อวันที่ 31 ธ.ค.60 เวลาประมาณ 18.00 น. จำเลยได้มีอาวุธปืนพกออโตเมติก ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก และกระสุนปืนออโตเมติกอีกจำนวน 6 นัด และจำเลยเสพเมทเอมเฟตามีน กับเสพเมทิลลีนไดออกซีเมทเอมเฟตามีน อันเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เข้าสู่ร่างกายซึ่งจำนวนและน้ำหนักเท่าใดไม่ปรากฏชัด โดยจำเลยยังต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานฯ ด้วย
ข่าวแนะนำ
โดยคดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า ให้จำคุกตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ 1 ปี รับสารภาพลดโทษเหลือ 6 เดือน
ฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานที่ปฏิบัติหน้าที่โดยขู่เข็ญว่าจะประทุษร้ายโดยมีอาวุธปืน ให้จำคุก 1 ปี 6 เดือน
และฐานเสพยาฯ จำคุกอีก 6 เดือน รวมจำคุกคดีนี้ทั้งสิ้นเป็นเวลา 1 ปี 18 เดือน
และให้บวกโทษของศาลอาญาคดีทำร้ายร่างกายสาวคนสนิทของอดีตภรรยาอีก 1 ปี 3 เดือน
เป็นจำคุกจำเลยทั้งสิ้น 2 ปี 21 เดือน โดยศาลไม่รอการลงโทษเเม้ว่าจำเลย อ้างป่วยเป็นโรคไบโพลาร์ขณะกระทำผิดเนื่องจากเห็นว่าจากพฤติการณ์การสื่อสารกับเจ้าหน้าที่พบว่าจำเลยรู้ผิดชอบดี จึงไม่อาจอ้างภาวะป่วยดังกล่าวได้ การกระทำของจำเลยนั้นไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ซึ่งศาลเคยให้โอกาสกลับตัวเป็นคนดีในการรอลงอาญาคดีอื่นไว้แล้วแต่จำเลยยังมากระทำผิดซ้ำในช่วงเวลารอลงอาญาอีก จึงไม่สมควรให้รอลงอาญาและให้นับโทษจำเลยต่อจากคดี พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ของศาลจังหวัดนครศรีธรรมราชด้วย
ศาลอุทธรณ์ พิพากษาแก้เป็นว่าฐานมีอาวุธปืนซึ่งเป็นของผู้อื่นที่ได้รับใบอนุญาตให้มี และใช้ตามกฎหมาย และเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาตจำคุก 5 เดือน ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก 3 เดือน
เมื่อรวมกับโทษฐานอื่นตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นเป็นจำคุก 1 ปี 15 เดือน
บวกโทษจำคุก 1 ปี 3 เดือนที่รอการลงโทษไว้ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ อ3705/2559 ของศาลอาญาเข้ากับโทษของจำเลย ในคดีนี้เป็นจำคุก 2 ปี 18 เดือน
ให้ยกคำขอให้นับโทษต่อจากโทษของจำเลยในคดีอาญาของศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช.
ศาลฎีกาพิพากษา มีคำพิพากษาว่า คดีนี้จำเลยยื่นขอรับรอง อนุญาตให้ฎีกา จากผู้พิพากษาศาลชั้นต้น และผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ที่นั่งพิจารณา และผู้ที่นั่งทำคำพิพากษา ซึ่งผู้พิพากษาได้พิจารณาคำร้องขอให้รับรองให้ยื่นฎีกาแล้วเห็นว่า ฎีกาของจำเลยเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงซึ่งต้องห้ามที่ให้ยื่นฎีกา จึงมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ยื่นฎีกา ดังนั้นศาลชั้นต้นจึงมีคำสั่งต่อไปว่า เมื่อศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์สั่งไม่อนุญาตให้ยื่นฎีกา คดีจึงถึงที่สุด ให้ออกหมายคดีถึงที่สุด และให้จำคุกจำเลยไปตามคำพิพากษาศาลอุทรณ์ จากนั้นราชทัณฑ์จึงคุมตัวนายเสกสรรค์ ศุขพิมาย หรือเสก โลโซ เข้าไปยังเรือนจำใต้ถุนศาล เพื่อส่งตัวไปยังเรือนจำพิเศษมีนบุรีต่อไป
ทั้งนี้ ก่อนหน้าฟังคำพิพากษา เสก โลโซ พูดสั้นๆ ว่า ตอนนี้เป็นช่วงพัก ไม่ได้ทำเพลงใหม่ออกมา แต่ว่าเรื่องยาเสพติด ตนเลิกเด็ดขาดแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีเดิมเมื่อวันที่ 31 ธ.ค.60 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.คันนายาว เตรียมเข้าจับกุมเสก โลโซ ที่บ้านพักชื่อบ้าน “ศุขพิมาย” ในหมู่บ้านนันทวัน ย่านสุขาภิบาล 5 ตามหมายจับศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช เลขที่ 478/2560 ลงวันที่ 30 ธ.ค.60 ข้อหากระทำผิด พ.ร.บ.อาวุธปืน โดยมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันสมควรและไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว และข้อหายิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมนุมชนมีอายุความ 15 ปีจากกรณีที่เสก โลโซ เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 29 ธ.ค.60 เสก โลโซ ยิงปืน 10 นัด ภายในงานฉลองสมโภชและครบรอบ 250 ปี สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช บริเวณวัดเขาขุนพนม ต.บ้านเกาะ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช อ้างว่าเป็นการบวงสรวงสมเด็จพระเจ้าตากสิน
ต่อมาวันที่ 31 ธ.ค.60 ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.คันนายาว จะเข้าจับกุม เสก โลโซ ต่อสู้ขัดขวาง ข่มขู่ ขณะมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองด้วย จนกลายเป็นข่าวดังช่วงปีใหม่ กระทั่งเสก โลโซ ถูกจับกุมส่งตัวพนักงานสอบสวน สน.คันนายาว ดำเนินคดี จำเลยได้ประกันตัวไปด้วยหลักทรัพย์เงินสด 150,000 บาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาล ส่วนเหตุการณ์ที่ จ.นครศรีธรรมราช มีการยื่นฟ้องคดีไปแล้ว ศาลมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 15 มี.ค.61 ให้จำคุก 5 วัน โดยไม่รอลงอาญา พร้อมปรับอีก 2,000 บาท
https://ift.tt/3slEXtO
บันเทิง
Bagikan Berita Ini
0 Response to "ฎีกาจำคุก "เสก โลโซ" 2 ปี 18 เดือน คดีเสพยา ต่อสู้ขัดขวางการจับกุมของตำรวจ - ไทยรัฐ"
Post a Comment