พล.ต.จารึก อารีราชการัณย์ เลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ในฐานะนายกสมาคมกีฬาผู้สูงอายุไทย เป็นประธานประชุมคณะกรรมการแข่งขันกีฬาสูงอายุ ไทยแลนด์ โอเพ่น มาสเตอร์เกมส์ ครั้งที่ 2 ที่ห้องประชุม 1 ชั้น 4 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ การกีฬาแห่งประเทศไทย โดยมี นายวิวัฒน์ วิกรานตโนรส เลขาธิการฯ, นายณัฐวุฒิ เรืองเวส นายกสมาคมกีฬาเทเบิลฯ รวมถึงผู้แทนสมาคมกีฬาต่างๆ ที่จะจัดให้มีแข่งขันในครั้งนี้
สำหรับการประชุมในครั้งนี้ เพื่อสรุปผลการแข่งขันของครั้งที่ 1 ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี ทั้งเรื่องมาตรฐานการจัดแข่งขันที่เป็นไปตามกฎ กติกาสากล โดยเฉพาะเรื่องของการจัดการเกี่ยวกับการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิค-19 ที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ในขณะนั้น แม้จะมีนักกีฬาบางส่วนเข้าใจผิดเกี่ยวกับใบรับรองแพทย์ซึ่งให้เพียงใบรับรองแพทย์ทั่วไป แต่บางคนเข้าใจคิดว่าเป็นใบรับรองแพทย์เกี่ยวกับการตรวจโควิค ซึ่งปัญหาทุกอย่างได้รับการแก้ไข และนักกีฬาสามารถนำใบรับรองแพทย์แสดง ให้กับเจ้าหน้าที่ก่อนจะลงทำการแข่งขัน
นายวิวัฒน์ กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ เพื่อสรุปเกี่ยวกับวันเวลาและสถานที่สำหรับจัดการแข่งขัน รวมถึงคุณสมบัติของนักกีฬาที่จะลงแข่งขันในครั้งนี้ และงบประมาณที่จะใช้แข่งขันที่ได้รับสนับสนุน จากการกีฬาแห่งประเทศไทยที่ได้รับอนุมัติมา 10 ล้านบาท แต่คิดว่าการแข่งขันครั้งนี้ ใช้งบประมาณมากกว่า จึงได้หารือกับผู้ว่าการกีฬาแห่งประเทศไทย นายก้องศักด ยอดมณี เพื่อขอเพิ่มงบประมาณ เพื่ออาจจะต้องมีการปรับปรุงสนามในบางส่วน ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณา
“ส่วนการกำหนดการแข่งขันคณะกรรมการ เห็นชอบกำหนดการแข่งขันไว้ ระหว่างวันที่ 4-12 กันยายน 2564 ที่สนามกีฬาการกีฬาแห่งประเทศไทยและปริมณฑล โดยกำหนดให้มีการแข่งขันทั้งหมด 14 ชนิดกีฬา ประกอบด้วย กรีฑา, แบดมินตัน, บาสเกตบอล, เพาะกาย, ลีลาศ, ฟุตบอล, เกทบอล, กอล์ฟ, เปตอง, ตะกร้อ, ว่ายน้ำ, เทเบิลเทนนิส, เทนนิส และวู้ดบอล โดยจะแบ่งกลุ่มนักกีฬาที่ลงแข่งขัน 3 กลุ่ม กลุ่มแรกคือ นักกีฬาทั่วไปที่สังกัดสมาคมหรือชมรมกีฬาต่างๆ กลุ่มที่ 2 นักกีฬาต่างชาติที่พำนักในประเทศไทย และนักกีฬากลุ่มพิเศษ คือแต่ละกีฬาจะมีนักกีฬสูงอายุร่วมทีม เช่น กรีฑา หากเป็นวิ่งผลัดก็จะมีผู้สูงอายุอยู่ในทีม ร่วมกับนักกีฬาทั่วไป เพื่อให้เป็นไปตามปรัชญากีฬาสูงอายุสากลที่ไม่ได้จัดเพื่อให้คนสูงอายุอย่างเดียว แต่ต้องเป็นกีฬาสำหรับคนทุกเพศทุกวัยที่สามารถเล่นได้ด้วย เพื่อให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมกับกิจกรรมที่จัดขึ้น”
นายวิวัฒน์ กล่าวต่ออีกว่า สำหรับการจำกัดอายุของนักกีฬาที่กำหนดไว้ 35 ปีขึ้นไป แต่ละกีฬาสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสมของชนิดกีฬานั้น ๆ ว่าจะกำหนดให้มีอายุเท่าไร ไม่จำเป็นต้อง 35 ปีขึ้นไปเหมือนกัน ทุกกีฬาขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของแต่ละกีฬา
“ตอนนี้ยังมีเรื่องของการแพร่ระบาดไวรัสโควิด เราจึงจำเป็นต้องกำหนดคุณสมบัตินักกีฬาต่างชาติว่า จะต้องพำนักในประเทศไทย แต่ก็ยังอยากให้นักกีฬาต่างชาติเข้ามาแข่งขัน ซึ่งจะมีการหารือและหาแนวทางปฏิบัติว่า หากจะให้นักกีฬาต่างชาติเข้ามาแข่ง จะต้องมีแนวทางปฏิบัติแบบไหน จะมีมาตรการป้องกันอย่างไร ซึ่งเรื่องนี้จะต้องหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การแข่งขันครั้งนี้มีความปลอดภัยมากที่สุด” นายวิวัฒน์ กล่าว
นายณัฐวุฒิ เรืองเวส กล่าวว่า หลังจากกำหนดวันเวลาและสถานที่จัดการแข่งขันแล้ว อยากให้สมาคมฯ จัดทำวีทีอาร์ประมาณ 5 นาที และเข้าไปหารือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เพื่อชี้ให้เห็นว่าการแข่งขันครั้งนี้ จะสามารถสร้างรายได้เข้าสู่ประเทศได้ และเมื่อนำเรื่องเข้าเสนอให้กับ รัฐมนตรีว่าการการท่องเที่ยวและกีฬา จะได้แจ้งได้ว่าสมาคมฯได้จับมือกับ ททท. ช่วยกันผลักดันให้การแข่งขันรายการนี้เกิดขึ้น ซึ่งจะนำมาซึ่งรายได้เข้าสู่ประเทศ.
อ่านบทความและอื่น ๆ ( กกท.หนุนงบ 10 ล้าน จัดแข่งกีฬาผู้สูงอายุไทยแลนด์ โอเพ่นครั้งที่ 2 จำนวน 14 ชนิดกีฬา 4-12 กันยายน 2564 - เชียงไหม่นิวส์ )https://ift.tt/3cEW7f4
กีฬา
Bagikan Berita Ini
0 Response to "กกท.หนุนงบ 10 ล้าน จัดแข่งกีฬาผู้สูงอายุไทยแลนด์ โอเพ่นครั้งที่ 2 จำนวน 14 ชนิดกีฬา 4-12 กันยายน 2564 - เชียงไหม่นิวส์"
Post a Comment