Search

“อีสเทอร์น พาวเวอร์” ซื้อโรงไฟฟ้าพลังงานลมเวียดนาม 2 แห่ง - ผู้จัดการออนไลน์

lamundress.blogspot.com



บอร์ด "อีสเทอร์น พาวเวอร์" อนุมัติให้บริษัทย่อยในฮ่องกงเข้าลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นกับ 3 ผู้ถือหุ้นใหญ่ในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม ประเทศเวียดนามอีก 2 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 4,500 ล้านบาท มีขนาดกำลังการผลิตรวม 100 เมกะวัตต์ มีระยะเวลาซื้อขายไฟฟ้า 20 ปี ในอัตรารับซื้อไฟฟ้าแบบ FIT ที่ 0.085 ดอลลาร์ต่อหน่วย

นายยุทธ ชินสุภัคกุล ประธานกรรมการ บมจ.อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป (EP) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 6/2563 เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2563 ได้พิจารณาและมีมติอนุมัติให้บริษัท EPVN W2 (HK) Company Limited (“EPVN W2”) ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทย่อยของ EP ที่เป็นบริษัทที่จดทะเบียนในเขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ดำเนินการเข้าลงนามในสัญญาซื้อหุ้น โครงการ Tay Nguyen และ Mien Nui ในจังหวัด Gia Lai ซึ่งมีกำลังการผลิตรวม 100 เมกะวัตต์ โดยคาดว่าเมื่อจ่ายไฟฟ้าแล้วจะสามารถเพิ่มรายได้ให้แก่บริษัทได้อีกปีละกว่า 740 ล้านบาท และมีผลตอบแทนจากการลงทุน (Equity IRR) กว่าร้อยละ 15

"การลงทุนโครงการลมเพิ่มในครั้งนี้ถือว่าเป็นอีกก้าวหนึ่งที่สำคัญ ซึ่งเป็นผลมาจากการบุกเบิกของบริษัทที่ประสบความสำเร็จในการลงทุนในพลังงานหมุนเวียนในประเทศเวียดนามเมื่อ 2 ปีก่อน และคาดว่าในเร็วๆ นี้ก็จะสามารถปิดการลงทุนได้อีกหลายโครงการ ที่สำคัญคือ การลงทุนดังกล่าวจะทำให้บริษัทสามารถเปิดประตูการลงทุนอื่นๆ ต่อไปได้อีกในอนาคต และจะช่วยสนับสนุน เพิ่มศักยภาพการเติบโตได้อย่างต่อเนื่องและมั่นคง" นายยุทธกล่าว

ในขณะที่ภาพรวมการดำเนินธุรกิจในปี 2563 บริษัทฯ มั่นใจว่าวิกฤตเศรษฐกิจที่ชะลอตัวจากผลกระทบของโรคไวรัสโควิด-19 จะไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อบริษัทอย่างแน่นอน โดยบริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 40% จากปีก่อนที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 2,103.73 ล้านบาท เนื่องจากมีรายได้ที่แน่นอนจากธุรกิจโรงไฟฟ้า และมีรายได้เพิ่มขึ้นจากธุรกิจบรรจุภัณฑ์ ซึ่งเชื่อว่าจะมีแนวโน้มการเติบโตสูงอย่างมีนัยสำคัญในอนาคต




August 10, 2020 at 01:09PM
https://ift.tt/31JhtCC

“อีสเทอร์น พาวเวอร์” ซื้อโรงไฟฟ้าพลังงานลมเวียดนาม 2 แห่ง - ผู้จัดการออนไลน์

https://ift.tt/3hbQyqg


Bagikan Berita Ini

0 Response to "“อีสเทอร์น พาวเวอร์” ซื้อโรงไฟฟ้าพลังงานลมเวียดนาม 2 แห่ง - ผู้จัดการออนไลน์"

Post a Comment

Powered by Blogger.